ชาผูเอ่อร์แบรนด์ที่เก่าแก่ก็ต้องยี่ห้อ จงฉา 中茶 ในอดีตชาผูเอ่อร์ยังไม่มีของบริษัทเอกชน ทุกโรงงานจะเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลคอมมิวนิตส์จีน ชาที่ผลิตในช่วงนี้ ชีจื่อปิ่ง 七子饼 ของทุกโรงงานจะต้องใช้ยี่ห้อนี้หมด จะมีแตกต่างบ้างก็เฉพาะสีของตัวหนังสือตรงกลางที่เขียนว่าชา แต่เดี๋ยวนี้โรงงานของรัฐบาลต่างก็ปิดตัวลงหรือขายทอดตลาดให้เอกชน และก็ได้นำโลโก้นี้ให้เอกชนรายหนึ่งสัมปทานไปใช้ วันนี้เรานำชาของจงฉา 7591 ปี2008 ชาสุก มาชิมดูกันครับ เตือนด้วยความหวังดี ชาเก่ายี่ห้อนี้ถ้าไม่เก่งจริงรู้จริง ไม่ควรซื้อเลยครับ ไม่ว่าที่เมืองจีนหรือในไทย เพราะว่าของปลอมระบาดเยอะมากๆ ผมก็เคยเจอมากับตัวแล้วครับ ซื้อของใหม่ ของแท้ ราคาสบายกระเป๋าดื่มกินดีกว่านะครับ รสชาติของชาแต่ละยี่ห้อจะต่างกันครับ แหล่งปลูกชาต่างที่ สูตรหมักคนละสูตร ทำให้ชาผูเอ่อร์มีรสชาติที่หลากหลาย ให้เลือกชิมรสชาติที่ตัวเองพอใจมากที่สุดการเลือกซื้อชา ควรสังเกตุใบชา หรือกระดาษห่อ สติเกอร์ วันเดือนปีผลิต ดมกลิ่น ดูสภาพชา ห้ามชื้นหรือขึ้นรา ความแน่น ประกอบด้วยครับ ชาที่ดีไม่ควรเหม็นสาบ ไม่ควรแสบคอ คอแห้งเป็นต้นครับ ควรหมั่นหาข้อมูลที่ถูกต้อง หมั่นดื่มชาดีบ่อยๆ แล้วจะเก่งเองครับ เออและสีชาต้องใสไม่ควรมีตะกอนลอยปนกัยน้ำชานะครับ สุดท้ายขอฝากสุภาษิตจีนซักคำนะครับ 真金不怕火 เจินจินปู้ผ้าห่อ ทองแท้ไม่กลัวไฟครับ คำนี้เหมาะกับวงการชาผูเอ่อร์มากครับ ทั้งชาและคนครับ สวัสดีครับ
ด้านหลังจะมีการพับกระดาษที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะ และมีวันที่ผลิตกำกับอย่างเปิดเผยและแปะสติกเกอร์รับประกันไว้ด้วย

แกะดูด้านในก็จะมีรูใหญ่ที่ตรงกลางเหมือนชา ชีจื่อปิ่งทั่วไป แต่ชาทุกยี่ห้อจะมีความแตกต่างในความเหมือนนะครับ ควรสังเกตุขอบแผ่นใบชาประกอบด้วยยิ่งดี

ด้านหน้าจะมีใบสรรพคุณใบใหญ่หนึ่งใบ และใบเล็กๆพิมพ์โลโก้อัดฝังกับชาอีกหนึ่งใบ

ใบชาค่อนข้างสวยใช้ได้

ปั้นชากับชาผูเอ่อร์คู่นี้เหมาะสมกันจริงๆ

ควรใส่ชาประมาณห้าถึงแปดกรัมต่อครั้ง

น้ำควรต้มให้สุกครับ แต่ไม่ควรให้เดือดซ้ำหลายครั้ง เดี๋ยวน้ำจะแก่กระด้างเกินไป

ชาผูเอ่อร์ควรล้างทิ้งซัอหนึ่งถึงสองครั้ง แต่ควรรินออกอย่างเร็วครับ

แช่ชาแต่ละน้ำไม่เกินสิบวิ จะได้น้ำชาที่สีสวยเข้มข้น










ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น