28 ธันวาคม 2558
บุกแหล่งชาตันฉง
วันนี้ขอนำประสบการณ์ที่ไปเยี่ยมแหล่งขาตันฉงมาให้ฟังกันครับ ผมโชคดีที่รู้จักชาวไร่ชาตันฉง เค้าขับรถมารับ เราไปถึงเมืองฟ่งหวงกันก่อนครับ เป็นเมืองที่ปลูกแต่ชา เต็มไปหมด มีร้านชาเต็มไปหมด ก็เหมือนแหล่งชาอื่นๆที่ผมเคยไป ถ้าไปเองก็ไม่รู้จะเข้าร้านไหนเลยล่ะครับ ฟ่งหวงตันฉง ที่โด่งดังหลายคนคงเคยได้ยินได้ดื่มไปแล้วครับ ชาตันฉงเป็นชาอูหลงชนิดหนึ่ง มีหลายกลิ่นหลายชนิด แล้วแต่พันธ์ เพราะเกิดจากการกลายพันธ์ข้ามไปข้ามมา เลยได้ต้นที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ เช่น มี่เซียง จือหลาน ซ่งจ่ง ...ๆลๆ ใครอยากได้กลิ่นของต้นไหนก็ใช้วิธีปักชำเอา จะได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ผิดเพี้ยน แต่จะหอมมากหอมน้อยก็ขึ้นกับอากาศของแต่ละช่วงที่ทำชา และฝีมืออาจารย์ชาล่ะครับ หลายสิบชนิดครับ ที่นี้ต้นชาจะถูกตัดให้เตี้ย เพื่อง่ายต่อการเก็บเกี่ยวและเพิ่มผลผลิต ชาของฟ่งหวงตันฉงจะเก็บได้ปีล่ะประมาณห้าครั้ง เพราะอากาศดีแสงแดดเพียงพอ ชาที่นี้จึงหอมคุณภาพดี แต่.....ที่นี่ยังไม่ใช่เป้าหมายของผม 555 ในชาฟ่งหวงเค้าจะแยกตามความสูงที่ที่ปลูก เช่น เกาซาน ภูเขาสูง จงซาน ระดับกลาง ตีซาน ระดับต่ำ เช่นที่ฟ่งหวงนี่เอง เราต้องขับรถขึ้นเขาต่อ ใช่เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครับ มองไปบนเขาเห็นแต่เมฆปกคลุม เราขับรถผ่านเขต จงซาน มีแสงแดดอุดมพอสมควร ไร่แถวนี้ก็จะเด็ดได้ สองถึงสามครั้งต่อปี จำนวนก็จะน้อยลง ราคาก็จะแพงขึ้น ถ้าคนไม่มีประสบการณ์ก็จะแยกแยะไม่ออก ก็จะวัดกันที่ความชงทน และบอดี้น้ำชา ก็จะดีกว่า ตีซาน ทางขึ้นเขาเราโค้งวกวนขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเข้าสู่เขตหมอกหนา มองเห็นไม่เกินสิบเมตร จึงต้องขับช้าๆ ใช้สมาธิและความเชี่ยวชาญของเจ้าของพื้นที่ หมอกหนาเหมือนกับเม็ดฝนและอากาศหนาวเย็นครับ และบนเขาเต็มไปด้วยก้อนหิน เข้าตำราแหล่งปลูกชาดีครับ ภูเขาสูง อากาศเย็น หมอกเยอะ มีกินกระจายตามพื้นที่ ในที่สุดก็ขึ้นมาถึง ผมก็รีบขอไปดูที่ไร่ ซึ่งก็อยู่ตามหลังบ้าน หน้าบ้านเต็มไปหมด แต่ผมมองอะไรไม่เห็นนะครับ เพราะหมอกเต็มไปหมด อย่างหนาแน่น ยิ่งเฉพาะฤดูนี้ ที่นี่ความสูงระดับน้ำทะเลประมาณ1300เมตรครับ ต้นชาบนเขา อ้อ ลืมบอกไปที่นี่เรียกว่าเขา วูต้งซาน นะครับ เริ่มเห็นต้นชาปลูกคล่ะๆกันเต็มไปหมด เพราะปลูกมาแต่โบราณ เป็นชาต้นใหญ่ หลักหลายสิบปี ไปจนถึงหลายร้อยปีครับ หลายต้นต้องปีนเด็ด ต้น ตงฟังหง มีอายุมากถึง 700 ปี เป็นต้นที่ท่านเหมาเจ๋อตงเคยดื่ม ได้ข่าวว่าขายขั่งล่ะล้านหยวน หุหุ การเด็ดชาที่นี่ต้องเชี่ยวชาญและแยกแยะต้นชาได้ เพราะเค้าปลูกคละกัน ต้องเลือกเด็ดเป็นพันธ์ๆไปครับ ชาที่นี่จะเด็ดปีล่ะครั้ง ในฤดูใบไม้ผลิ และพื้นที่บนเขาไม่กว้าง และเป็นต้นชาโบราณมาก แม้ไม่ใหญ่และมากเท่าที่ยูนานแต่ก็ถือว่าต้นชาอายุเยอะกว่าแหล่งอื่น ต้นชาอายุเยอะที่รสชาติดีๆเค้าจะตั้งชื่อ และคนก็มาขยายพันธ์ไปปลูก เช่นต้นซ่งจ่ง คนมาขยายไปก็เรียกซ่งต่งรุ่นที่1 ขยายจากรุ่นที่1ไปก็เรียกซุ่งจ่งรุ่นที่สองเป็นต้น แต่ก็มีต้นชาอายุเยอะหลายต้นที่รสชาตืไม่โดดเด่นก็จะอาภัพหน่อย ไม่มีราคา จะเล่าให้ฟังว่าต้นอายุสามสี่ร้อยปีจะขายกันชั่งล่ะสองสามหมื่นหยวนนะครับ แพงมากๆ และไม่มีขายด้วย ต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว แอบนึกในใจ คนดื่มชาผู้เอ่อร์มีความสุขกว่าเยอะครับ ชาวไร่ที่นี่ร่ำรวยทุกคนนะครับ มีรถดีๆ บ้านหลายๆหลัง ขอสรุปให้ฟังนะครับ ชาวูต้งตันฉงเป็นชาเกาซาน เป็นที่นิยมมากที่สุดในชาตันฉง ราคาก็แพงที่สุด ราคาไม่ตายตัวแล้วแต่ผลผลิตและคุณภาพชาในแต่ล่ะปี และย้อมแมวมีเป็นของธรรมดาครับผม...น่าจะพอเห็นภาพกันแล้วนะครับ ขอแค่นี้ก่อนนะครับ สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น